งวดเข้ามาทุกทีสำหรับแชมป์ ฟุตบอลโลก “กาตาร์ 2022” ที่เต็มไปด้วยความ “พลิกล็อก” แต่ก็เป็นเสน่ห์ให้ผู้คนอยากติดตามชมการแข่งขันกันมากขึ้น …
การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ในคราวนี้ต้อง ฟันฝ่ายอุปสรรค และก็ความท้าทาย ไล่ตั้งแต่หลังการได้รับการ เลือกเฟ้นเป็นเจ้าภาพ ที่มีกลิ่น “เงินใต้โต๊ะ” โชยมาแรง จนกระทั่งทำเอากาตาร์ ถูกครหา และก็คณะผู้บริหารขั้นสูง และก็เจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า (FIFA) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานหลัก โดนสอบปากคำในคดีรับสินบน กันมากมาย
ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาของการแข่งขันที่ แตกต่างไปจากธรรมเนียมเดิม ที่ปกติจัดในช่วงกลางปี มาเป็นช่วงปลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ในกาตาร์ในช่วงฤดูร้อน ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจกับลีกฟุตบอลของหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งในยุโรป ที่ต้องปรับเปลี่ยนตารางครั้งใหญ่
หลายลีกดัง ในยุโรปที่เริ่มเปิดฤดูกาลไปในระยะแรก ก็มีนักเตะบาดเจ็บจำนวนมากและก็ พลาดโอกาสในการร่วม แสดงฝีเท้าที่กาตาร์ในคราวนี้ ขณะที่นักฟุตบอลบางส่วนที่ทีมของตนเข้ารอบลึกก็กังวลใจกับอาการ บาดเจ็บ มากขึ้นหลัง จบการแข่งขันฟุบอลโลก เนื่องจากว่าต้องไปลุย ฟุตบอลลีกกันต่อแบบไม่ได้ “พักน่อง” กัน
ขณะเดียวกัน โดยที่กาตาร์ มีอิสลามเป็น ศาสนาประจำชาติ ทำให้มีข้อกฎหมายและก็ธรรมเนียม ปฏิบัติของท้องถิ่น ที่แตกต่างและก็เข้มงวดกว่าของหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้ช่วยเหลือการแข่งขันบางรายก็สูญเสียโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนที่ขัดกับหลักศาสนา อาทิ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขณะที่แฟนบอลที่คุ้นเคยกับการ “ซดเบียร์ เชียร์บอล” ก็อาจรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง
นอกจากนี้ เจ้าของงานยังโดนข้อตำหนิ เกี่ยวกับประเด็นสิทธิ มนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือ กลุ่มคน LGBTQ แล้วก็แรงงาน ต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและก็สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยว ข้องในกาตาร์ ซึ่งก่อให้เกิดการบาดเจ็บและก็เสียชีวิตของแรงงานนับพันคนอีกด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความท้าทายใหญ่ ของเจ้าของงานก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วง 3 ปีหลัง ส่งผลให้การจัดการแข่งขัน “อยู่บนเส้นด้าย” และก็ขาดความแน่นอนอยู่นาน โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนยังเกรงว่ากาตาร์จะเจอ “โรคเลื่อน” หรือจำต้องจัดการแข่งขันใน “ระบบปิด” เลยก็มี
ถ้าจำความกันได้ การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อนที่โตเกียว และก็โอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมด้านกีฬาใหญ่ที่ถูก จัดไปก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จำเป็นต้องจัดการแข่งขันแบบ “ระบบปิด” ที่เกือบไม่มีคนดูในสนาม ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและก็ต่างชาติไม่อาจเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันได้ ส่งผลให้การจัดการ แข่งขันลดสีสันและก็ความน่าสนใจไปมาก แถมผู้จัดงานยังสูญเสีย รายได้และก็โอกาสทางเศรษฐกิจอื่นเป็นจำนวนมหาศาล
หากแม้กระทั่งแขกรับเชิญพิเศษของไทย ท่านหนึ่งที่เดินทางไปร่วมงานที่กรุงปักกิ่งก็ยังบ่นว่า การเข้าร่วมงานในครั้งนั้น “ไม่สามารถกระดิกตัวไปไหนได้เลย” โดยใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่โรงแรมที่พักและก็สนามแข่งขันเท่านั้น ขนาดจะขอแวะเข้าสุขาระหว่างทาง ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ไม่อาจซึมซับ ความงดงามของบ้านเมืองและก็การต้อนรับของเจ้าของงานได้ดีเท่าที่ควร
แต่เมื่อ ฟุตบอลโลก คราวนี้ใกล้เข้ามา
กาตาร์ก็ดูจะ “มากับดวง” กล่าวคือ เชื้อโควิดอ่อนเพลียลงในช่วงหลัง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีมุมมอง “ที่ต้องอยู่กับโควิด” ทำให้เริ่มคลายล็อก และก็เปิดให้มีการเดินทางระหว่าง ประเทศกันจนกระทั่งเกือบเป็นปกติ แถม “กาตาร์ 2022” ก็ยังเป็นกิจกรรมใหญ่แรกในยุคหลังโควิด
เว้นเสียแต่การทุ่มเงินขยาย สนามบินระหว่างประเทศฮาหมัด (Hamad International Airport) รถไฟใต้ดิน สนามฟุตบอล และก็สิ่งอำนวยความสะดวกที่พรั่งพร้อมอย่างที่คุยกันไปเมื่อคราวก่อนแล้ว พวกเรายังได้มองเห็นความพยายามของกาตาร์ ในการสั่งสมประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาระดับระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง อาทิ การจัดแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ แฮนด์บอลล์ชายโลก และก็กรีฑาชิงแชมป์โลก
ด้วยจังหวะเวลาที่ดี ดังกล่าว การจัดเตรียมการจัดงาน ที่ดีที่สุด และก็ความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างตั้งใจจริงของกาตาร์ ทำให้แฟนบอลที่รอคอยเวลามานาน ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตั๋วนั่งชมฟุตบอลกว่า 3 ล้านใบได้ ถูกจำหน่ายล่วงหน้าไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งผู้คนในประเทศใกล้เคียงจากซาอุดิอาระเบียและก็สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แล้วก็คอลูกหนังจากบราซิล อาร์เจนตินา สหรัฐฯ เม็กซิโก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และก็โมร็อกโค ที่ทีมชาติของตนเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ดังนี้ นักวิเคราะห์ใน วงการกีฬาประเมินว่า ฟีฟ่าจะมีรายได้จากการจัดการแข่งขันในคราวนี้มากกว่าเมื่อคราวที่จัดขึ้นที่รัสเซียในครั้งก่อนถึง 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้มีความเห็นว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของกาตาร์ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น อีกทั้งจากการลงทุนก่อสร้างและก็ปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างพื้นฐานและก็สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งสร้างงานใหม่ราว 1.5 ล้านตำแหน่ง
สำนักงาน ส่งเสริมการลงทุน แห่งกาตาร์ (Investment Promotion Agency of Qatar) เปิดเปิดเผยว่า นับแต่ปี 2010 ที่กาตาร์ได้รับเลือกเฟ้นให้เป็นเจ้าภาพ เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 4.5% ต่อปี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และก็อุตสาหกรรม ของกาตาร์ก็ระบุว่า แม้ว่าจะต้องพบเจอกับวิกฤติโควิด ในช่วงหลายปีหลัง แต่โอกาสด้านการค้าและก็การลงทุนที่เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมงานและก็การดำเนินการ จัดฟุตบอลโลกยาวไปจนถึงปี 2023 รวมจำนวน 83 โครงการ
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการมากขึ้นของโครงการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลเข้าสู่กาตาร์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การโฆษณา การตลาด และก็ด้านไอที อาทิ ซอฟท์แวร์ ระบบปฏิบัติการ และก็แอพพลิเคชั่น แล้วก็ฟินเทค และก็การท่องเที่ยว
อย่างเช่น เจ้าพ่อวงการดิจิตัลอย่างกูเกิ้ล (Google) เปิดสำนักงาน ท้องถิ่น คลาวด์ระดับภูมิภาค และก็ศูนย์แห่งความเยี่ยม ขณะที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าแห่งซอฟท์แวร์ ก็เปิดคลาวด์ระดับภูมิภาคและก็ศูนย์นวัตกรรมเพื่อบริการลูกค้าท้องถิ่น
ไอไลฟ์ดิจิตัล (iLife Digital) จากสหรัฐฯ ลงทุนตั้งโรงงานผลิตองค์ประกอบอุปกรณ์ไอทีที่เขตฟรีโซนกาตาร์ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน 1,500 ตำแหน่ง ส่วนกลุ่มยูที่ปรึกษาความงามส (UBS Group) แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็วางแผนจะเปิดศูนย์ธุรกิจครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงโดฮา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริการการเงินดิจิตัลและก็การพัฒนาเด็กพรสวรรค์ในท้องถิ่น แล้วก็จะดึงผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตัล 200 คนเข้าไปในพื้นที่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ทำนองเดียวกันก็ขยายผลทางเศรษฐกิจถัดไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ส่งผลให้สัดส่วน FDI ในภูมิภาคต่อโลกมากขึ้นจาก 5% เศษในปี 2019 เป็นกว่า 8% ในปี 2021
เมื่อการแข่งขันเริ่ม คิกออฟ
ก็ก่อให้เกิดการขยายตัวของการท่องเที่ยว และก็ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แบรนด์แฟรนไชส์โรงแรมชั้นแนวหน้าอย่างฮิลตัน (Hilton) มาร์ริออต (Marriott) และก็เซ็นทารา (Centara) ของไทยที่ได้เข้าไปลงทุนและก็ขยายบริการในกาตาร์ในช่วงหลายปีหลัง ก็คาดว่าจะมีแฟนบอลจองหอพักเต็มตลอดการแข่งขัน
และก็มาถึงวันนี้ การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ก็ผ่านไปด้วยดี ได้รับความชื่นชมจากแขกรับเชิญพิเศษ แฟนบอล และก็สื่อมวลชนทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้ชาวโลกรู้จะกาตาร์มากขึ้น และก็เสริมสร้างชื่อเสียงผ่านการเป็นเจ้าภาพ “จัดงานใหญ่”
ประเทศในภูมิภาคต่างคาดหวังว่า “พลังละมุน” ในคราวนี้จะ “{ทรงพลัง” และก็ช่วยเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว หลายประเทศยังต้องการสร้าง “จุดขายใหม่” ในด้านธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว การกีฬา และก็การรักษาพยาบาลในเวทีระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยจัดเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านกิจกรรมมากมาย
อาทิ อาบูดาบี บาห์เรน และก็ซาอุดิอาระเบีย จัดเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถยนต์สูตร 1 (Formula One) ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระหว่างประเทศที่อาบูดีบี เทนนิสที่ดูไบ และก็อี-สปอร์ตในหลายประเทศในภูมิภาค โดยใช้สื่ออัล จาซีรา (Al Jazeera) ของกาตาร์ ที่พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางสื่อของโลกอาหรับช่วยประโคมข่าวสาร
นักวิเคราะห์ของ PWC ยังประเมินไว้ว่า วงการกีฬาในตะวันออกกลางจะขยายตัวถึง 8.7% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกที่ 3% นอกจากนี้ กาตาร์ยังจัดเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ในปี 2030 แต่ “การเดิมพันครั้งใหญ่” ดังกล่าวจะเกิดคุ้มค่าการลงทุนและก็ก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่นในระยะยาวหรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่รอคำตอบ
คราวหน้าผมจะเชื้อเชิญคุยเรื่องการเป็นผู้ช่วยเหลือ “กาตาร์ 2022” ของแบรนด์จีนที่ตามมาด้วย “ควันหลง” …